วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ทริปเที่ยวไต้หวัน วันที่ 8 : เดินทางจากเขิ่นติง墾丁 (Kěndīng) ไปสถานีรถไฟฟางเหลียว 枋寮車站 (Fāngliáo chēzhàn) นั่งรถไฟผ่านทุ่งนาเขียขจีเมืองฉือชั่ง 池上 (Chíshàng) ไปนอนเมืองฮวาเหลียน 花蓮 (Huālián)


Monday 14th May 2018 วันนี้เป็นวันที่ 8 ของทริปเดินทางท่องเที่ยวไต้หวันครับ ภาระกิจของเราวันนี้คือการเดินทางจากเมืองเขิ่นติง (墾丁:Kěndīng) ด้วยรถบัส แล้วลงที่หน้าสถานีรถไฟฟางเหลียว (枋寮 : Fāngliáo) เพื่อนั่งรถไฟต่อไปเมืองฮวาเหลียน (花蓮 : Huālián) เพื่อที่จะไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติไท่หลู่เก๋อ หรืออุทยานทาโรโกะ (太魯閣國家公園 : Tàilǔgé Gúojiā Gōngyuán) ในวันรุ่งขึ้นอีกวันครับ วันนี้จริงๆ ก็ไม่ได้เที่ยวเลยครับ เดินทางอย่างเดียว แต่ขอบอกว่าคุ้มค่ามากครับ นั่งรถไฟไต้หวันฝั่งตะวันออกของเกาะที่ดูเหมือนจะน่าเบื่อ (เพราะต้องนั่งตั้ง 5 ชั่วโมง) แต่เปล่าเลยครับ วิวสองข้างทางสวยมากๆครับ


เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าฝั่งตะวันออกของเกาะไต้หวันไม่มีรถไฟความเร็วสูงวิ่งผ่าน ดังนั้นจึงมีรถไฟแบบธรรมดา และจากตารางข้างบนจะเห็นได้ว่าขบวนที่ผ่านจากสถานีฟังเหลียวไปฮวาเหลียนนั้นน้อยเหลือเกินครับ มีแค่ 4 เที่ยวต่อวัน และเที่ยวแรกก็เป็นเวลา 8:20 น. ซึ่งถ้าเราจะเดินทางด้วยรถไฟเที่ยวนี้ แต่เราอยู่เขิ่นติง ก็มาขึ้นรถไฟขบวนนี้ไม่ทันอยู่ดี ดังนั้นเราก็จะต้องมาให้ทันเที่ยวถัดไปคือ 11:34 น. 


ถามข้อมูลเจ้าของโรงแรม เจ๊เจ้าของโรงแรมบอกว่ามีรถออกไปเกาสงเที่ยวแรกประมาณ 8:00 น. (ผ่านสถานีรถไฟฟางเหลียว) เราก็เลยต้องตื่นเช้าออกมารอรถตั้งแต่ 7:40 เพื่อนที่จะเดินไปป้ายรถเมล์ตรง 4 แยกใกล้ๆ โรงแรม (ตรงข้าม 7-Eleven ที่เรารอรถบัสจะไปเอ๋อหลวนปี๋เมื่อวานแต่ไปแท็กซี่แทน) เดินออกมาจากโรงแรมติดกับ 4 แยกเลย จะเห็นซุ้มประตูทางเข้า Kenting National Forest Recreation Area ซึ่งเสียดายมากว่าไม่ได้เข้าไปชมเมื่อวาน ทั้งๆที่ว่างตอนบ่าย เพิ่งมาเซิร์ชหาข้อมูลดู เป็นป่าให้เดินได้ สวยมากๆเลย ใครไปอย่าลืมแวะชมสถานที่นี้ด้วยนะครับ 


ป้ายรถเมล์ที่เราต้องออกมารอรถครับ อยู่ตรงสี่แยกพอดี


ป้ายรถเมล์แสดงรายละเอียดตารางเวลารถเมล์ผ่านตรงป้าย แต่ส่วนใหญ่ รถบัสที่จะเดินทางไปเกาสงก็จะผ่านสถานีรถไฟฟางเหลียวอยู่แล้ว แค่ย้ำกับคนขับรถก่อนขึ้นอีกทีว่าเราจะลงที่สถานีฟางเหลียวนะ (枋寮車站 : Fāngliáo Chēzhàn : ฟางเหลียวเชอจ้าน) 


ขึ้นรถมาแล้วก็นั่งชิลๆครับ เปิด GPS ในมือถือไปด้วยครับ กันหลง (ควรซื้อซิมการ์มือถือไต้หวันไว้ใช้งานอินเตอร์เน็ทด้วยนะครับ มีประโยชน์อย่างยิ่ง จะได้ใช้ GPS กันหลงทางได้อย่างดี )


อันนี้คือสนามบินด้วยนะครับ เมื่อวานก็ผ่าน แต่เห็นโล่งๆ ไม่มีเครื่องบินจอดเลย


ก่อนถึงฟางเหลียวเล็กน้อย จะผ่านสะพานแขวนมองเห็นไกลๆแบบนี้ครับ ด้านซ้ายมือ


นั่งมาเกือบๆ ชั่วโมงก็ถึงป้ายรถเมล์ หน้าสถานีรถไฟฟางเหลียวครับ (枋寮車站 : Fāngliáo Chēzhàn : ฟางเหลียวเชอจ้าน) 


จากป้ายรถเมล์เดินอ้อมมาข้างหลังนิดเดียวก็จะเจอสถานีรถไฟฟางเหลียวครับ  (枋寮車站 : Fāngliáo Chēzhàn : ฟางเหลียวเชอจ้าน) 


มาถึงก่อนเวลาหลายชั่วโมงเลยครับ แต่ดีกว่าตกรถ นั่งเล่นชิลไป ซื้อตั๋วก็ได้ตามเวลาที่เซิร์ชไว้เป๊ะเลยครับ ขบวน จื้อฉาง307 ออกจากฟางเหลียว 11:34 ถึง ฮวาเหลียน 15:52 น. ค่ารถไฟคนละ 548 NTD ครับ


นั่งรอวนไปครับ ม้านั่งที่สถานีรถไฟฟางเหลียวจะตกแต่งทำเป็นรูปชมพู่ครับ เพราะปลูกชมพู่เยอะ ประมาณนั้นนะ (ถามเพื่อนจินมา) 


บริเวณลานจอดรถด้านหน้าสถานีฟางเหลียวครับ รอนานเลยเดินออกไปซื้อชานม กับหัวมันย่าง ให้ลุงเสริมกิน หัวมันย่างไต้หวันอร่อยมากครับ หัวละ 20NTD โดยประมาณ มันเหนียวหนึบหวาน หัวหนึ่งกินอิ่มเลยครับ อร่อยมากๆ (แต่ถ้าเป็นมันเผาในร้านเซเว่น ไม่อร่อยนะครับ มันไม่มีความหนึบเลยนิ่มอย่างเดียว ออกจืดๆด้วยครับ ซื้อที่เขาย่างขายตามร้านทั่วไปอร่อยกว่าเยอะครับ



ชมพู่ลูกใหญ่จริงๆ 


วันที่ผมเดินทางเห็นมีวัยรุ่นผู้ชาย มาลงสถานีนี้เยอะมากๆครับ มีทหารมารับ น่าจะไปเกณฑ์ทหาร ถามเพื่อนจินแล้ว ใช่ครับ มาเมืองนี้เพราะไปเกณฑ์ทหาร


ก่อนรถไฟมาถึง จนท.ก็เปิดให้เข้าในชานชลาครับ ขึ้นมาแล้วหน้าตาภายในรถไฟเป็นแบบนี้ครับ ขนาดว่าเป็นขบวนที่ไม่ใช่ความเร็วสูง ยังดูเลิศหรูอลังการเลยครับ นั่งสบายมากๆ 


ออกมาจากสถานีฟางเหลียวแล้วรู้สึกได้เลยว่าเราวิ่งอยู่บนภูเขา เพราะเบื้องล่างคือถนนเลียบชายฝั่งทะเลนั่นเองครับ วิวน่าตื่นตาตื่นใจมากครับ


พื้นที่เกษตรกรรม หลังจากนี้รถไฟจะลอดเข้าอุโมงค์หลายอุโมงค์มากๆ บางอุโมงค์ก็ยาวมากๆครับ ระยะทางหลายกิโลเลย 


ออกจากอุโมงค์มาก็ะเจอพื้นที่เกษตรกรรม เรื่อยๆ แถวนี้บ้านเรือนผู้คนจะน้อยมากครับ 


ผ่านมาถึงเมืองฉือชั่ง (池上 : Chíshàng) บริเวณนี้จะเจอกับพื้นที่เพาะปลูกนาข้าวครับ


ทั้งสองฟากทางรถไฟจะเห็นทุ่งนาต้นข้าวเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา 


เป็นบรรยากาศแถบชนบทที่เงียบสงบน่าอยู่จริงๆเลยครับ


ถึงสถานีฮวาเหลียนแล้วครับ เกือบ 4 โมงเย็น รถไฟก็ตรงเวลาไม่เลทเลยนะครับ


ลากกระเป๋า เดินออกมาหน้าสถานี มองย้อนกลับไปสถานี มองเห็นภูเขาด้านหลังที่คนอื่นถ่ายรูปมาสวยมาก แต่วันนี้มันอึมครึม ครึ้มฟ้าครึ้มฝนเสียจริง เราจะมาเจอฝนอีกรอบแล้วครับ หลังจากเจออากาศร้อนตับแล่บที่เมืองเขิ่นติงมา 


จองโรงแรม Second ไว้ครับ เดินหากันนานมากอีกแล้ว เพราะจีพี่เอสไม่รู้จักโรงแรมนี้ มันหาไม่เจอ เลยต้องเปิดหาที่อยู่ถามคนเอา เป็นอพาร์ทเม้นต์ครับ ที่จริงหาง่ายมาก ออกจากสถานีมา ข้ามถนนไปสองบล็อคเลี้ยวขวานิดหนึ่งก็ถึงเลยครับ 歇肯民宿 (Second) No. 66 Guolian 2nd Road, 花蓮市, 花蓮縣, 台灣, 970 เช็คอินแล้วก็ออกมาเดินเล่นในสนามตรงข้ามสถานีรถไฟฮวาเหลียนครับ


มีตุ๊กตุ่นให้ถ่าบรูปเยอะแยะเลยครับ


ตุ๊กตุ่นในสนามหน้าสถานีรถไฟฮวาเหลียน


ตุ๊กตุ่นในสนามหน้าสถานีรถไฟฮวาเหลียน


ตุ๊กตุ่นในสนามหน้าสถานีรถไฟฮวาเหลียน


อาคารบ้านเรือนบริเวณสถานีรถไฟฮวาเหลียน


ตัวอาคารสถานีรถไฟฮวาเหลียนกำลังก่อสร้างใหม่ ยังไม่เสร็จครับ


ตัวอาคารสถานีรถไฟฮวาเหลียนกำลังก่อสร้างใหม่ ยังไม่เสร็จครับ


จะไปเที่ยวอุทยานไท่หลู่เก๋อ ต้องมาซื้อ 1 day pass ที่ออฟฟิศสีส้ม ด้านหลังรถบัสนี้นะครับ (ถ้าเดินออกมาจากสถานีฮวาเหลียน ให้เดินออกมาทางซ้ายมือ จะเจอออฟฟิศนี้ครับ)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น