วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ทริปเที่ยวไต้หวัน วันที่ 7: เดินทางไปเมือง 墾丁 (Kěndīng) + ชมประภาคารเอ๋อหลวนปี๋ 鵝鑾鼻 (É luán bí) + จุดใต้สุดเกาะไต้หวัน 台灣最南點 (Táiwān zuì nán diǎn)

Sunday 13th May 2018 วันนี้เป็นวันที่ 7 ของการเดินทางเที่ยวไต้หวันครับ ภาระกิจวันนี้ก็คือ การเดินทางจากเมืองเกาสง (高雄 : Gāoxióng )ไปเมืองเขิ่นติง 墾丁 (Kěndīng) ด้วยรถบัสสาย Kenting Express สาย 9189 แล้วจะเช่าจักรยานไฟฟ้าขับเที่ยวเมืองเขิ่นติงครับ 


จุดประสงค์หลักที่มาที่นี่เพราะอยากมาชมจุดใต้สุดของเกาะไต้หวันครับ 台灣最南點 (Táiwān zuì nán diǎn) และก็จะแวะชมประภาคาร ที่จุดชมวิวเอ๋อหลวนปี๋ครับ (鵝鑾鼻 : É luán bí) 


วิธีเดินทางคือต้องมาขึ้นรถ Kenting Express Bus ที่สถานี จ่ออิ๋ง (左營 : Zuǒ yíng ) แล้วขึ้นไปซื้อตั๋วตรงออฟฟิศบนสถานี ตรงทางออก 2 ของสถานีรถไฟความเร็วสูง รถเที่ยวแรกออก 8:30 น. แต่ผมไปถึงก่อนเวลามาก ออฟฟิศตั๋วก็เลยยังไม่เปิด


ออฟฟิศขายตั๋ว Kenting Express Bus จะเปิดตอน 8:10 น.ครับ (ปิด 19:10 น.ครับ)


จากการที่เราได้หาข้อมูลรถ Kenting Express Bus เอาไว้ รถบัสจะออกตามเวลาในรูปครับ


ตั๋วที่ซื้อจะเป็นกระดาษแบบนี้และต้องซื้อด้วยเงินสดเท่านั้นไม่รับบัตรเครดิต ราคา 401 NTD ต่อคนครับ


ได้ตั๋วแล้วก็เดินลงมาที่ป้ายรถเมล์ ป้ายบริเวณเดียวกับ อี้ต้าบัส (E-DA Bus) ที่เรานั่งไปเที่ยววัดฝอกวงชานเมื่อวานครับ  มีป้ายไฟบอกเรียบร้อย Kenting Expree Bus สาย 9189 ครับ กระเป๋าเอาไว้ด้านล่างเลยครับ แล้วขึ้นรถ (ทีนี้ได้ประสบการณ์แล้ว ว่าต้องเอากระเป๋าเดินทางไว้ใต้ท้องรถก่อนขึ้นรถ เพราะเคยโดนคนขับรถด่าตอนที่ขึ้นรถบัสจากเมืองเจียอี้ขึ้นไปอาหลี่ซานครับ 


หน้าตาภายในรถ Kenting Express Bus สาย 9189 ครับ (รถวิ่งระยะทางไกลนี้ มีห้องน้ำด้วยนะครับ)


รถ Kenting Express Bus สาย 9189 จะวิ่งลงใต้ไปเมืองเขิ่นติง ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใต้สุดของเกาะไต้หวันครับ แทบไม่มีบ้านคนเลยระหว่างทาง ดูยังเป็นชนบทอยู่เลยครับแถวนี้


ส่วนใหญ่ก็เป็นพื้นที่เกษตรกรรมครับ 


ที่ด้านหน้าเบาะรถทุกที่นั่งจะมีแผ่นโชว์สายรถบัสที่วิ่งผ่านจุดท่องเที่ยวต่างๆในเมืองเดขิ่นติงครับ พอเห็นแผ่นภาพนี้ผมเลยตัดสินใจว่าจะนั่งรถบัสแทนการเช่าจักรยานไฟฟ้าครับ เพราะพ่อมาด้วย ไม่อยากเสี่ยง เพราะบ้านเขาขับรถเลนขวา 


รถวิ่งมา 2 ชม.นิดๆ ก็มาถึงเขิ่นติงครับ ผมลงที่ป้ายหาดเสี่ยววัน (小灣 : Xiǎo wān )ตรงข้ามโรงแรม Caesar Park Hotel แต่ไม่ได้พักโรงแรมซีซ่าปาร์คแห่งนี้นะครับ 555


หาดเสี่ยววัน เป็นหาดเล็กๆครับ มีร่มให้บริการ มีหาดให้เล่น ที่นี่เพิ่งจะเห็นฝรั่งเที่ยวไต้หวัน เมืองอื่นที่เราไปเที่ยวมา แทบไม่เจอฝรั่งเลยครับ 


จากหาดเสี่ยววาน ต้องเดินย้อนกลับไปเกือบกิโล จองไว้ที่ ปาซือ ชาแนล แวเคชั่น บีแอนด์บี (Bashi Channel Vacation B & B)  เพราะตอนแรกดูไม่ไกลจากหาดเสี่ยววันเท่าไหร่ แต่เอาเข้าจริงๆคือเดินกลับประมาณ 800 เมตรเห็นจะได้ ร้อนมากๆเลยครับ อากาศ



เช็คอินที่โรงแรมแล้วก็ยังไม่ได้ห้อง เลยฝากกระเป๋าแล้วออกมาเที่ยวก่อน ออกจากประตูโรงแรมก็เลี้ยวซ้ายเดินข้าม 4 แยก ไปรอรถเมล์ที่หน้าร้าน 7-Eleven เจอข้าวก็นั่งกินข้าวในร้าน 7-Eleven ไปก่อน ระหว่างที่กินยังไม่เสร็จ เห็นรถบัสผ่านไป 1 คัน ชิลมาก ชล่าใจ สุดท้ายพอกินเสร็จ รอรถนานมาก เพราะรถน้อย เจอแท็กซี่ผ่านมา1 คันพอดี เราเลยถามราคาไปเอ๋อหลวนปี๋ (鵝鑾鼻 : É luán bí) ลุงคนขับบอก 300 NTD ก็ขึ้นเลยครับ ขี้เกียจรอแล้ว นั่งมาไกลเกือบๆ 5-6 กิโลได้ ก็จะถึงเอ๋อหลวนปี๋ครับ 


ซื้อบัตรเข้าเอ๋อหลวนปี๋ (鵝鑾鼻 : É luán bí) คนละ 60  NTD ครับ


เข้ามาแล้ว เจอทุ่งโล่งๆหญ้าแห้งๆ แต่อาจจะเป็แนเพราะว่าเดือนนี้ มันหน้าร้อน มันเลยดูแห้งๆมั้งครับ ทางภาคใต้ของใต้หวัน (แต่ที่ไถจง ตกจังเลย)


ทางเดินเข้าเอ๋อหลวนปี๋ครับ (鵝鑾鼻 : É luán bí) 


เริ่มเห็นประภาคาร (ภาษาจีนเรียก 灯塔 : Dēngtǎ : เติงถ่า) ที่เอ๋อหลวนปี๋ครับ (鵝鑾鼻 : É luán bí) 


ประภาคาร เอ๋อหลวนปี๋ (鵝鑾鼻 : É luán bí) 


ป้ายบอก The Basepoint of the Territorial Sea of the Republic of China : 中華民國領海基點 : Zhōnghuá mínguó lǐnghǎi jīdiǎn : จุดฐานของทะเลภาคีของสาธารณรัฐประชาชนจีน

จากประภาคาร มองเห็นทะเลอยู่ลิบๆครับ


ป้ายบอกจุดตรงนี้เรียกว่า เอ๋อหลวนปี๋ (鵝鑾鼻 : É luán bí) 


เดี๋ยวเราจะเดินลัดป่า เข้าไปตามหาชายหาดกันนะครับ


เดินเข้าป่าไปประมาณ ครึ่งกิโล ก็เจอชายหาดครับ อากาศร้อนมากๆ ไม่มีลมพัดเลย


ตรงนี้เป็นจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปได้ครับ


ชายหาดลงไปไม่ได้นะครับ หินแหลมๆทั้งนั้นเลย 


ด้านหลังก็เป็นเนินดินเตี้ยๆ มีพืชเตี้ยๆปกคลุม


แล้วก็มีป้ายลอกว่าสามารถเดินมาชมวิวอีกที่ครับเป็นศาลาแบบนี้ ดินมาอีก 400 เมตร 


ก็จะเห็นวิวอ่าวเกาะใต้หวันด้านใต้แบบนี้นะครับ


เอ้าติดมาอีกรูป หาดด้านใต้เกาะใต้หวันที่มีแต่หิน


ก่อนขึ้นศาลามีป้ายบอกว่านี่คือหอนจูบกัน มองให้ออกนะครับ ว่าหินมันจูบกัน 555


ทางขึ้นไปศาลาในรูปก่อนหน้า


แล้วก็มีทางเดินไปชมโน่นชมนี่


ทางบอกว่าไปหมู่บ้านก่อนประวัติศาสตร์ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย มันมีแต่หิน แล้วก็ หิน จริงๆครับ 


ป้ายบอกทางไปศาลาเมื่อกี้ อีกทางไปถ้ำลึกลับ ครับ แต่พอเดินไปก็ไม่เห็นมีถ้ำเลย งง จริงๆ 


ก็เลยเดินออกมาจากป่า เดินกลับไปทางประภาคารอีกรอบ


เข้าไปชมประภาคารซะหน่อย


ประภาคารครับ


ตรงข้ามประภาคาร มีร้านขายของที่ระลึกครับ แต่ราคาค่อนข้างแพงเลย เสื้อเด็กเล็กเสื้อผู้ใหญ่ราคาเท่ากันเลย 350 NTD แต่รูดบัตรเครดิตได้ครับที่นี่ แต่ถ้าจะซื้อพวกหมวกของฝาก ร้านค้าตรงลานจอดรถก่อนทางเข้าที่เราซื้อตั๋วเข้ามาจะถูกกว่าทุกที่ที่เราไปเจอมาครับ 


วิวสวย แต่อากาศร้อนเหลือทน ต้องขอลา 


คราวนี้ก็ต้องไปทำภาระกิจอีกอย่างครับ คือตามหาจุดใต้สุดของเกาะใต้หวัน เดินออกมาจากเอ๋อหลวนปี๋แล้ว ข้ามถนนไปอีกฟาก เดินไปตามถนนที่อยู่ตรงข้ามทางเข้าลานจอดรถเอ๋อหลวนปี๋ ในแผนที่ดูใกล้นิดเดียว เอาจริงๆ เดินกิโลกว่าๆครับ ร้อนมากๆ จากถนนหลักก็เลี้ยวเข้ามาข้างในซอย แต่มีป้ายบอกครับ ไม่หลง เสียอย่างเดียวที่มันร้อนมากๆนี่แหละ เหงื่อไหลเปียกทั้งตัวแล้ว ลุงเสริมบอกว่าร้อนมาก เจอทริปนี้เข็ดเลย ไม่อยากมาเที่ยวแบบนี้อีกแล้ว ผมเลยบอกว่าอดทนสักนิด เดี๋ยวก็ถึงแล้ว 


แต่ก็ยังไม่ถึงซะที แผนที่ใกล้มาก แต่มันไกลสุดๆ เดินมาอีกนิดเจอสถานีตรวจวัดอากาศครับ 


และแล้วก็ถึงทางเข้า ทีนี้ยิ้มออกแล้วลุงเสริม แต่ก็ต้องเดินเข้าไปอีกครึ่งกิโลครับ จากตรงป้ายนี้


มีฝรั่งเดินมาดูเยอะเหมือนกันครับ 


ถึงซะทีครับ จุดใต้สุดของเกาะไต้หวัน 台灣最南點 (Táiwān zuì nán diǎn)


วิวทะเลตรงจุดใต้สุดก็เป็นหินเหมือนที่เอ๋อหลวนปี๋เลยครับ มีป้ายบอกว่าอันตรายห้ามลงไปเล่นบนหินเพาะมันแหลมคมมากๆนั่นเองครับ


ป้ายแผนที่บริเวณจุดใต้สุดของเกาะไต้หวัน


หลังจากนั้นก็เดินกลับอีก กิโลครึ่ง กลับไปยังที่จอดรถบัสตรงหน้าทางเข้าเอ๋อหลวนปี๋ครับ นั่งรถบัสกลับ ใช้ Easy Crad ปี๊ดขึ้น ลง รถได้เลยครับ ที่จริงการจะมาเที่ยวเอ๋อหลวนปี๋มันจะผ่านตรงนี้ด้วย เรียก Sail Rock ครับ เป็นหินแท่งๆแบบนี้ แต่รูปนี้ถ่ายตอนนั่งบนรถบัสครับ ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่


Sail Rock อีกรูปครับ 


กลับมาโรงแรมปาซือ ชาแนล แวเคชั่น บีแอนด์บี (Bashi Channel Vacation B & B) อีกครั้งครับ มาอาบน้ำพักผ่อน อยากนอนมาก เดินตลอดครึ่งวันบ่ายเลยวันนี้ ที่จริงจะเหลือที่ชมวิวอีกหลายที่มาก แต่ควรเช่าจักรยานไฟฟ้าไปเที่ยวครับ แต่ลุงเสริมเหนื่อย แล้วก็ไม่อยากเสี่ยง วันนี้เลยเที่ยวได้แค่นี้เองครับ 


กลางคืน มีถนนคนเดินด้วย เส้นหน้าโรงแรมเลยครับ ส่วนใหญ่ขายของกินครับ


สารพัดหอย แต่ไม่กล้าซื้อกินครับ 


บรรยากาศถนนคนเดิน


มีร้านอาหารไทยด้วย 


ร้านปิ้งย่างอะไรซักอย่าง ถ่ายมาได้ไง สงสัยลุงเสริมถ่ายครับ รูปนี้ 


จักรยานไฟฟ้า ฝีมือลุงเสริมถ่ายรูปครับ


ไอศกรีมหลากรสผลไม้ แต่แพงจัง 


ปิดท้ายกันด้วยภาพเขียนในห้องนอนเราเองครับ ปาซือ ชาแนล แวเคชั่น บีแอนด์บี (Bashi Channel Vacation B & B) ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะรูปสวย และห้องไม่แพงครับ รู้สึกจะ 700 NTD ต่อคืนครับ 


 ซื้อขนมมากิน แล้วก็ชานมไข่มุกใต้หวัน เตรีมตัวเดินทางต่อพรุ่งนี้ครับ เราจะไปเมืองฮวาเหลียนกันครับ เพื่อไปชมความงดงามของอุทยานแห่งชาติไท่หลู่เก๋อกันครับ 太魯閣國家公園 : Tài lǔ gé guójiā gōngyuán

1 ความคิดเห็น: