วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ทริปเที่ยวไต้หวัน วันที่ 6: เที่ยวเมืองเกาสง วัดฝอกวงชาน 高雄佛陀紀念館 (Gāoxióng fótuó jìniànguǎn)+ Skywalk 崗山之眼 (Gǎng shān zhī yǎn)


Saturday 12th May 2018 วันนี้เป็นวันที่ 6 ของการเดินทางเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองนะครับ ภาระกิจของเราวันนี้คือ เดินทางไปเที่ยววัดฝอกวงชานแห่งเมืองเกาสง 高雄佛陀紀念館 (Gāoxióng fótuó jìniànguǎn : เกาโฉงฝอถัวจี้เนี่ยนก่วน) ส่วนภาระกิจที่อยู่ๆก็เพิ่มเข้ามาโดยมิได้วางแผนไว้ล่วงหน้าก็คือการไปเดินเที่ยวที่ Skywalk นอกเมืองเกาสงที่อยู่คนละทางกับวันฝอกวงชานเลยก็คือที่เรียกว่า กั่งชานจือเหยียน ครับ 崗山之眼 (Gǎng shān zhī yǎn) ก็คือสถานที่ดังรูปนี้ครับ 


崗山之眼 (Gǎng shān zhī yǎn) ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษก็น่าจะเป็น Gangshan Eye ประมาณนี้ การเดินทางก็ไม่ยากไม่ง่ายครับ คอยติดตามอ่านไปเรื่อยๆนะครับ 


จากการหาข้อมูลมา วัดฝอกวงชาน ต้องเดินทางด้วยรถ E-DA Bus (義大客運 : Yìdà kèyùn : อี้ต้าเค่อยวุ่น) จากสถานีรถไฟความเร็วสูง  Zuoying (左營 : Zuǒ yíng : จ่ออิ๋ง) มีรถบัสเที่ยวแรกเวลา 8:00 น. ดังนั้นจากโรงแรม อาร์ 10 อีโค โฮเต็ล (R10 Eco Hotel) ต้องเดินไปขึ้นรถไฟ MRT สายสีแดงสถานี Formosa Boulevard (R10) ไปยังสถานี Zuoying (R16) ออกจากสถานี MRT Zuoying แล้วไม่ต้องขึ้นไปซื้อตั๋วรถบัสเหมือนตอนที่ไปเขิ่นติงนะครับ 


รถอี้ต้าบัสเนี่ยไปรอตรงป้ายบนถนนฝั่งเดียวกับสถานี Zuoying เลยครับ จะเห็นข้างรถเขียนว่า 義大線 (義大客運 : Yìdà kèyùn : อี้ต้าเค่อยวุ่น) สาย 8501 เพื่อความมั่นใจก็ถามคนขับรถว่าไป ฝอกวงชาน ใช่มั้ย แล้วใช้บัตร Easy Card ปี๊ดขึ้นรถได้เลย (เวลาถึงก็ปี๊ดบัตรตอนลงอีกที) นั่งไปก็ราวๆ 40 นาทีนะครับ รถจะผ่านสวนสนุก EDA ด้วย แต่ไม่ได้แวะครับ จุดหมายเราคือวัดฝอกวงชานครับวันนีั แต่....มีความเงิ่บครับ เพราะเราลงผิดป้าย (ที่จริงต้องนั่งไปสุดสายแต่ผมลงก่อน เพราะ......)




ตอนที่นั่งรถไปผมเผลอหลับไปแว้บเดียวจริงๆ แบบว่ามันสลึมสลือ พออมาถึงตรงนี้เห็นกำแพงสูงวัดสูงๆ มีพระพุธรูปองค์ใหญ่แบบนี้ เลยคิดว่าถึงแล้ว เลยเดินไปถามคนขับว่า ฝอกวงชาน ใช่มั้ย ที่นี่ ไม่รู้สื่อสารกันอย่างไร คนขับก็บอกว่าใช่ ผมก็เลยพาลุงเสริมลงตรงนี้ ซึ่งขอบอกว่ามันคนละฝั่งกันเลย เราก็เลยต้องเดินกันไกลมากๆๆๆๆๆๆๆ เพราะฝั่งนี้คืออีกฟากหนึ่งของวัดเลยครับ อะไรจะยิ่งใหญ่อลังการขนาดนั้น


คือถ้าไม่เห็นอะไรสูงๆใหญ่ๆ แบบนี้จะไม่ลงเด็ดขาด เพราะมันคนละฟาก แต่ไหนๆก็ลงมาแล้วก็ต้งเดินตามระเบียบครับ ถ่ายรูปวนไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน


ลงผิดฝั่งแต่ก็ยังมีไกด์พาลูกทัวร์มาเดินนะครับนี่ กำลังอธิบายแผนที่วัดให้ลูกทัวร์ฟัง


พวกเราก็เดินเข้ามาครับ ทางขึ้นเป็นทางลาดชันขึ้นทีละนิด


ทางเข้าวัดฝอกวงชาน


เดินตามถนนไปเรื่อยๆครับ เหงื่อเริ่มตก ลุงเสริมเริ่มบ่นว่า ไกลจัง (ก็พาลงผิดป้ายนี่ จะให้ทำเยี่ยงไร 555)


มีสวนหย่อมให้พัก แต่ไม่พักครับ เพราะมัวแต่กังวลว่าเมื่อไหร่เราจะถึงจุดหมาย


เดินทะลุมาอีกฟาก เจอแม่ชี ก็เอารูปไปให้ดู แม่ชีพูดภาษาจีนอย่างเดียว บอกว่าเดินไปอีก ทางนี้ๆๆ คือต้องเดินถัดไปจากอาคารนี้อีกครับ จริงๆ มันก็คืออาคารทั้งหมดของวัดเลยแหละครับ ยิ่งใหญ่อลังสุดๆ


วิวตอนหยุดพักเหนื่อย


ไก่กับเณรน้อย ในสวนตอนหยุดพักเหนื่อยครับ


วิวสวนหย่อมตอนหยุดพักเหนื่อยครับ

เจอแล้วครับ ป้ายบอกทาง 佛陀紀念館 (Fotuó jìniànguǎn ) 450 เมตร (ดีนะ ที่เรียนภาษาจีนมาบ้าง ไม่เสียแรง คราวนี้ได้ใช้ประโยชน์เลยครับ) 


สวนดอกไม้ วิวตอนพักเหนื่อย


ต้องเดินลงเนินแล้วครับ โค้งลงล่างเลี้ยวขวาไปตามถนนเลยครับ


เดินลงเนินไปตามถนนเรื่อยๆครับ 


มีตุ๊กตุ่น เทพ มังกร ให้ถ่ายรูปเพียบเลยครับ


ไหนๆก็เดินมาผิดทางแต่แรกแล้ว แวะชมอาคารในวัดส่วนนี้ก่อนครับ


เริ่มเห็นความอลังการแล้วใช่มั้ยครับ เดี๋ยวเราจะเข้าไปชมกัน


ส่วนอีกฝั่งก็จะเป็นสิ่งที่เราตามหาในวันนี้ครับ


มีความสวยงาม ยิ่งใหญ่อลังการ สุดๆ และที่นี่ เป็นสาเหตุที่ผมต้องมาเที่ยวเมืองเกาสงครับ


งดงาม เงียบสงบ ร่มเย็น


ตรงนี้คืออาคารทางเข้าหลักของ 佛陀紀念館 (Fótuó jìniànguǎn ) ครับ


หาคอยด้านหน้าของวัดครับ


ซุ้มประตูทางเข้าและลานจอดรถ ซึ่งที่ถูกต้องเราต้องลงรถบัสป้ายสุดท้ายคือตรงนี้ แต่ถ้าไม่ลงผิดป้าย ก็คงไม่เจอความสวยงามที่อยู่เบื้องหน้าแน่นอนครับ เพราะแทบไม่มีใครขึ้นมาบนที่เรายืนอยู่เลยจริงๆครับ


มีความสวยงามของสวน ต้นไม้ และป่าหิน ที่ทางวัดนำมาประดับ แต่ละก้อน ใหญ่โตมโหฬารจริงๆ


ภาพพระพุทธเจ้าบนผนังกำแพงด้านหน้าอาคาร ภาพนี้ ชวนให้เข้าไปชนข้างในยิ่งนักครับ  (น่าจะเป็นภาพปูนปั้นนะครับ เรียกไม่ถูก)


ขึ้นมาแล้วจะร้อง ว้าว!! เลยครับ สวยงาม ยิ่งใหญ่มาก อย่างกับว่าเราอยู่บนทิพย์วิมานบนสรวงสวรรค์เลยจริงๆ ดูในรูปอาจจะธรรมดา แต่ของจริงคือใหญ่มาก อลังการสุดๆ แล้วก็ไม่มีใครเดินขึ้นมาชมเลยครับ


ข้างในคือห้องโถง คล้ายๆที่บรรยายธรรมะ มีภาพเขียนตัวอักษรภาษาจีนตลอดแนวผนังด้านในครับ ตรงนี้มีเจ้าหน้าที่วัด มาแนะนำรายละเอียดวัด แต่พูดภาษาจีนอย่างเดียวเลยครับ เลยทำบุญใส่ตู้บริจาคไป


ชมข้างบนเสร็จแล้ว เราจะลงไปข้างล่างแล้วครับ ตรงน้ที่เราเดินบันไดขึ้นมาเรื่อยๆคือชั้น 6 เลยนะครับ เจ้าหน้าที่บอกลงลิฟท์ไปก็ได้ครับ มีลิฟต์ตรงสุดปลายทางเดินในตัวอาหารตรงนี้ครับ


ลงลิฟท์มาแล้วก็เดินออกมาตรงถนนเส้นเดิมที่มีตัวตุ๊กตุ่น มังกร หรือเทพ ต่างๆ เดินลงเนินมาเรื่อยครับ เจอป้าย ทางเข้า 佛陀紀念館 (Fótuó jìniànguǎn) 


อีกฝั่งของป้ายคือ 佛光山 แสดงว่าผมเข้าใจผิดเอง ที่ถามคนขับรถตอนลงป้ายว่า ฝอกวงชานรึเปล่า คนขับรถก็ตอบถูกแล้ว แต่มเข้าใจผิดเอง เพราะที่ที่เราตามหาคือ  佛陀紀念館 (Fótuó jìniànguǎn) แปลเป็นไทยคือ อนุสรณ์สถานพระพุทธเจ้า หรือ Buddha Memorial ในภาษาอังกฤษครับ 


ซ้ายมือในรูปข้างบนนี้ก็จะเป็นที่รอรถเมล์ครับ ก็คือที่ตรงนี้คือป้ายรถเมล์ป้ายสุดท้าย และเป็นต้นสายเวลาขากลับครับ จะเห็น อี้ต้าบัส คันที่เรานั่งมาเมื่อครู่ที่ลงผิดป้าย กำลังจอดอยู่ 


เข้าไปชมความงามกันเลยครับ


ในตัวอาคารก็เป็นร้านขายของที่ระลึก ขายขนม เครื่องดื่มต่างๆ ทุกอย่างคือมังสวิรัติทั้งหมดรับ 


เค้กแบบต่างๆน่ากินมากครับ แต่แพงไปหน่อย ก้อนละ 70 NTD เลยไม่ได้ลอง 


รูปแกะสลักไม้ แอปเปิ้ลยักษ์


เดินทะลุตัวอาคารมาด้านหลังก็เป็นแบบนี้ครับ กล้องผมไม่ได้ซูมกว้างได้ มันเลยเห็นแค่นี้แหละครับ สรุป ผมว่าผมถ่ายมาจากข้างบน วิวสวยกว่า 555 ขอบอกว่าแดดร้อนมากๆ เหมือนจะไข้เลย ร้อนสุดๆ


อีกรูปครับ ใกล้ๆ

เดินมาจนถึงฐานพระพุทธรูป มองย้อนกลับไปยังอาคารด้านหน้าที่เราเดินมาเมื่อครู่ครับ


องค์พระพุทธรูป


อาคารด้านหลัง

ภายในตัวอาคารที่ประดิษฐานพระพุทธรูป มีภาพพระพุทธประวัติต่างๆ แล้วก็ความเป็นมาของวัดครับ (ขออภัยมีแต่รูปที่ถ่ายกับนายแบบอีกแล้ว)


ชมความงามจนพอใจแล้วก็ได้เวลากลับครับ เดินลงมาทางเดิม แดดร้อนมากๆเหมือนเดิม


หลบแดด ดินเข้ามาในทางเดินเลียบกำแพง แกะสลักคำสอน ต่างๆ เป็นภาษาจีน ตลอดทั้งแนว งานละเอียด สุดยอดมากครับ ขอบอกเลยว่าตลอดทั้งแนวจริงๆครับ


เกือบสุดปลายทาง ก่อนกลับเข้าไปตัวอาคารด้านหน้า มีบริเวณที่ขายอาหารด้วยครับ ต้องสั่งอาหาร จ่ายตังค์ รอหมายเรียกเลขคิวที่เขาให้เรามา เวลาเสร็จอเขาจะเรียกหมายเลขคิวให้ มีป้ายไฟบอกครับ ทุกอย่างเป็นอาหารมังสวิรัติทั้งหมดเลยครับ ชามนี้ 60 NTD 



กลับเข้ามาในตัวอาหารด้านหน้า เพิ่งสังเกต ว่ามีบริการอาหารบุฟเฟต์แบบเจ มังสวิรัติด้วยครับ น่าจะฟรี นะครับ คิดว่า แต่เราไม่ได้อยู่ในช่วงแวลา เลยไม่ทราบ ที่จริงจะได้ขึ้นไปลองดู 

แอบขึ้นมาดูนิดหนึ่งครับ บริเวณที่เลี้ยงอาหารบุฟเฟต์เจ หลังจากนั้นก็เดินกลับไปที่ป้ายรถเมล์ นั่งรถบัส E-DA Bus กลับสถานี MRT Zuoying (左營 : Zuǒ yíng : จ่ออิ๋ง) 


แล้วก็มุ่งหน้าไปกั่งชาน Skywalk เลยครับ จะบอกว่าทั้งสองที่วันนี้ อยู่กันคนละทิศละทาเลยครับ กั่งชานสกายวอล์ต้องขึ้น MRT สายสีแดง  R16  Zuoying ไปสถานีสุดสายเลยครับ R24 (南崗山 : Nángǎng shān : Gangshan South) มีคำว่าใต้ แต่ต้องเดินทางขึ้นไปทิศเหนือจากจ่ออิ๋ง นะครับ 555 พอถึงสถานี R24 : หนานกั่งชานแล้ว ก็ให้นั่งแท็กซี่เลยครับ สะดวกสุด เพราะถ้าไปรถบัส จะลงไม่ถูกครับ ดูจาก GPS แล้ว ระยะทางจากสถานีหนานกั่งชานไปกั่งชานสกายวอร์ค ระยะทาง 8 กิโลเมตรครับ แท็กซี่คิดราคาเหมา 2 คน  320 NTD ก็ไม่ถือว่าแพงมากเท่าไหร่ครับ ที่นี่นักท่องเที่ยวน่าจะเป็นคนไต้หวันเองซะส่วนใหญ่ครับ ด้านหน้ามีร้านขายของกิน ลานจอดรถบัส ห้องน้ำ



แหงนหน้ามองขึ้นไป มันน่าขึ้นไปเดินอะไรเยี่ยงนี้ 


คิดๆดูก็เสียว มีเสาต้นใหญ่ต้นนี้ต้นเดียวนะเนี่ย Gangshan Skywalk Park รูปร่างด้านหัวคล้ายไวโอลิน เสาหลักสูง 40.5 เมตร ความยาว 88 เมตร ความกว้างเป็น 2 เท่าของความยาว มีสายสลิงลักษณะเหมือนสายไวโอลิน จำนวน 24 เส้น


วิวถ่ายจากล่างสกายวอร์ค จะเห็นได้ว่า เราก็อยู่บนเขาแล้วนะตอนนี้ ขนาดว่าอยู่ข้างล่าง


จากที่เคยอ่านมา สวนแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาสามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำ Agongdian (阿公店水庫 : Āgōng diàn shuǐkù) ก็คือรูปนี้ครับ


ต่อไปก็ต้องซื้อตั๋วขึ้นครับ คนละ 60 NTD ครับ ลุงเสริมอายุเกิน 60 ปี ขึ้นฟรีครับ


หัวไวโอลิน

มีส่วนที่เป็นกระจกให้ด้วยนะครับ เล็กๆแค่นี้ขอบอกว่ายังเสียวเลยครับ ถ้าไปเจอที่เมืองจีนที่จางเจี่ยเจี้ย น่าจะขาสั่นพั่บๆเลยนะครับ ส่วนรูปนี้ ลุงเสริมโดนบังคับนะครับ ที่จริงไม่กล้าไปยืนนะครับ 555


เสียวดีมั้ย ลุงเสริมยืนนิ่งมาก ไม่กล้ากระดุกกระดิกเลย 555


เดินชมวิวไปตามทางเดินเรื่อยๆครับ


วิวท้องทุ่ง นอกเมืองเกาสง


วิวสวนหย่อมข้างล่าง ทางเดินขึ้นมาที่สกายวอล์ค


เดินพอแล้วก็ลงมาข้างล่างครับ ทีนี้ก็ถึงเวลากลับแล้วครับ 



มีรถที่ไป อุทยานป่า อะไรซักอย่างด้วย คนก็มารอเข้าแถวรอรถบัสเล็กกันครับ เขียนว่าไป 森林公园 Sēnlín gōngyuán 


มีรถบัสที่ไป อ่างเก็บน้ำ Agongdian (阿公店水庫 : Āgōng diàn shuǐkù) ด้วยครับ


ส่วนของพวกเราต้องขึ้นคันนี้ครับ ไม่ได้ระบุสายอะไร ถามคนขับรถว่าจะไป MRT Nan Gang Shan ได้มั้ย คนขับบอกโอเค ขึ้นเลย ใช้บัตร Easy Card ปี๊ดขึ้นรถได้เลยครับ 


ภายในรถบัสเล็กคันเมื่อครู่ครับ มีผู้หญิงไต้หวันนั่งมาด้วยอีกคน นั่งมาสักพัก คนขับบอกให้ลง อ้าว ทำไมงี้อ่ะ เมื่อกี้บอกไป MRT ได้ เราเลยต้องปี๊ดบัตรลงรถ เจ๊คนไต้หวันนี่นั่งมาด้วยบอกว่าต้องลงตรงนี้แล้วต่อรถอีกสาย ทุกอย่างคุยกันเป็นภาษาจีนทั้งหมด แบบ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง 555 


และนี่คือป้ายรถเมล์ที่เราต้องลงมาต่อรถอีกสาย โชคดีที่มีเจ๊คนนี้มาด้วย ไม่งั้นคงจะงงหนักกว่าเก่า คง ต้องหาแท็กซี่เลยนะนี่ตรงนี้ แท็กซี่ก็แทบจะไม่ผ่านเลยครับ 


ข้างหลังป้ายรถเมล์ที่ยืนอยู่จะเป็นบ้าน หรือสนง.สีแดงๆแบบนี้นะครับ


ป้ายรถเมล์นี้คือ 大莊路口 : Dà zhuāng lùkǒu : Da Zhuang junction ครับ


ตารางเวลารถเมล์ตรงป้ายครับ เจ๊ไต้หวันบอกว่ารอสาย 紅68 ครับ ไปหนานกั่งชาน MRT รถมาแล้วก็ปี๊ดบัตร Easy Card ขึ้นเลยครับ มาถึงสถานี MRT หนานกั่งชาน ก็เกือบค่ำแล้ว


ตรงทางเข้าทางออกสถานี MRT Nan Gang Shan (R24) มีรถแท็กซี่เยอะมากๆครับ ขาไปนั่งแท็กซี่ดีกว่ากันหลง ส่วนขากลับ ใครอยากจะผจญภัยแบบผมก็ตามสะดวกครับ หรือจะนั่งแท็กซี่กลับเหมือนเดิมก็ได้ครับ ตกลงราคากันก่อน ของผมจ่ายไป 320 NTW ครับ ราคาประมาณนี้ (ต่อเที่ยว)


ตอนค่ำก่อนถึงโรงแรมก็ไปเดินถนนคนเดินซะหน่อย หาของกิน เจอวุ้นใส่มะนาว กินชุ่มคอดีครับ ถ้วยละ 20 NTD


จักรยานไฟฟ้าไต้หวัน น่ารักมั้ยครับ สำหรับคืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ครับ พรุ่งนี้ต้องเดินทางต่อไปเมืองเขิ่นติง 墾丁 (Kěndīng) + ชมประภาคารเอ๋อหลวนปี๋ 鵝鑾鼻 (É luán bí) + จุดใต้สุดเกาะไต้หวัน 台灣最南點 (Táiwān zuì nán diǎn) กันนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น